ซื้อ 2 ฟรี 1 ทุกหลักสูตรของ ISO และ Quality Improvement

ในยามที่เศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ หลายองค์กรปรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อให้องค์กรอยู่รอด และกลยุทธ์ที่ทุกองค์กรต้องนำมาใช้เป็นอันดับแรกๆ คือ การลดค่าใช้จ่ายของส่วนงานต่างๆ ซึ่งรวมทั้งหน่วยงานฝึกอบรม ด้วยเหตุนี้บริษัท เอซี แมนเนจเม้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จึงออกรายการส่งเสริมการขาย ซื้อ 2 ฟรี 1 ให้กับลูกค้าทุกองค์กร เพื่อช่วยเหลือกันในช่วงวิกฤตนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1 ซื้อหลักสูตรฝึกอบรมในกลุ่มของระบบ ISO ทั้งหลาย เช่น ISO 9001:2008, ISO/TS 16949:2009, ISO 14001:2004 เป็นจำนวน 2 วัน ซึ่งอาจจะเป็นหลักสูตรละ 1 วัน ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหลักสูตร 2 วัน ทางเราจะอบรมให้ท่านฟรีอีก 1 วัน ในหลักสูตรกลุ่มระบบ ISO หรือ กลุ่ม Quality Improvement เช่น 5ส, Kaizen, Why Why Analysis

2 ใช้บริการ รายการส่งเสริมการขายนี้ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงเดือนตุลาคม 2552 นี้เท่านั้น (สามารถซื้อก่อนแล้วอบรมหลังตุลาคมได้)

3 หากมีข้อสงสัย โทรหรือเมล์เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ครับ เรายินดีให้คำแนะนำ

โทร 02-7458325-6 เมล์ marketing@acee.co.th

หลักการตรวจสอบระบบคุณภาพภายใน ISO 9001:2008 ภาค 3

สวัสดีครับ
กลับมาอีกครั้ง กับหลักการตรวจสอบคุณภาพภายใน ระบบ ISO 9001:2008 เป็นครั้งที่ 3 หลังจากสองครั้งที่ผ่านได้พูดถึงการตรวจในส่วนของตัวบุคคล หรือพนักงานผู้ปฏิบัติงาน ผู้เกี่ยวข้อง กับเรื่องของวิธีการทำงาน หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องนั่นเอง สำหรับวันนี้เราก็จะมาต่อกันที่ M Machine


เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ ที่ใช้ในการทำงานมีอยู่หลากหลาย เวลาที่เราลงพื้นที่ตรวจ เราต้องทราบว่าในพื้นที่ที่เราตรวจน่าจะมีเครื่องมืออะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง เช่น ลงตรวจพื้นที่ QC ก็น่าจะมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์จำพวกเครื่องมือวัด ตรวจ Production ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับเครื่องจักร ดังนั้น การตรวจสอบระบบคุณภาพภายใน ก็ต้องมีการตรวจการดูแลเครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของสินค้าด้วย เรามาพูดกันถึงเครื่องจักรก่อนล่ะกัน หากเราตรวจในพื้นที่การผลิต เราอาจจะสอบถามการดูแลรักษาเบื้องต้น เช่น ก่อนเริ่มงานเราต้อง Set up เครื่องจักรหรือไม่ Set อย่างไร มีเอกสารการดำเนินงานมั้ย หากพบข้อบกพร่องต้องทำอย่างไร เครื่องจักรใครเป็นคนดูแลซ่อมบำรุง ฝ่ายผลิตของเรามีส่วนในการดูแลรักษาเครื่องจักรอย่างไรบ้าง ถามดูเผื่อเราเข้าใจว่าการดูแลเครื่องจักรเป็นหน้าที่ของฝ่ายซ่อมบำรุง แต่ในบางบริษัทที่ทำ TPM ฝ่ายผลิตอาจจะมีการดำเนินการดูแลเครื่องจักรมากกว่าปรกติ อย่าลืมตรวจสอบเครื่องวัดที่ใช้ในการทำงานด้วยว่าผ่านการสอบเทียบมาหรือยัง

แต่หากเราไปตรวจหน่วยงาน ควบคุมคุณภาพ หรือ QC เราก็ควรตรวจสอบเครื่องมือวัดว่ามีการสอบเทียบหรือไม่ ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการนำเครื่องมือไปสอบเทียบ เป็นหน้าที่ของ QC หรือเปล่าจะได้ถามต่อ หากใช่ก็ลุยต่อ

ใครเป็นคนจัดทำแผนการส่งเครื่องมือวัดไปสอบเทียบ การสอบเทียบใช้หน่วยงานภายนอกหรือสอบเทียบภายในกันเอง หากสอบเทียบภายใน พนักงานผู้สอบเทียบมีความรู้ความสามารถหรือไม่ สอบเทียบตามมาตรฐานอะไร ห้องสอบเทียบมีการควบคุมอย่างไร บันทึกผลการสอบเทียบ การตัดสินใจว่าผ่านหรือไม่ผ่าน มีเกณฑ์ในการตัดสินใจหรือไม่
โอว โอว สอบกันให้สนั่นไปเลย


ทั้งหมดเป็นตัวอย่างเบื้องต้นที่ใช้สำหรับมุมมองการตรวจในด้านของเครื่องมือ อุปกรณ์ที่นำมาใช้งานในหน่วยงานที่เราเข้าไปตรวจ หวังว่าคงจะนำไปใช้งานได้บ้างนะครับ แล้วพบกันใหม่

หลักการตรวจสอบระบบคุณภาพภายใน ISO 9001:2008 ภาค 2



วันนี้มาต่อกันกับหลักการตรวจสอบระบบคุณภาพภายใน ISO 9001:2008 ภาค 2 หรือภาคต่อนั่นเองครับ ขออนุญาตไม่ทบทวนของเก่านะครับ เรามาตรวจต่อกันเลย จากคราวที่แล้วเราลงพื้นที่ตรวจในส่วนของคนทำงาน หรือพนักงานที่ปฏิบัติการ วันนี้เราก็ตรวจต่อในด้านของ M Method หรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน วิธีการทำงาน หรือแล้วแต่จะเรียกตามบริษัทของท่านเอง

ในการตรวจเรื่องของวิธีการทำงานนั้น ใช่ว่าเราจะตรวจเพียง ทำตามที่เขียน แล้วเขียนอย่างที่ทำหรือเปล่า แต่เราจะต้องดูในด้านของการควบคุมเอกสาร การควบคุมบันทึกด้วย เริ่มตั้งคำถามกันเลยดีกว่า

"ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าพี่ทำงานตรงนี้ต้องทำอะไรบ้างครับ" (ตั้งคำถามเปิดไว้ก่อน เพราะไม่รู้อะไรเลย)
"แล้วที่พี่อธิบายมา มันมีเขียนไว้ที่ไหนมั้ยครับ ถ้าผมเป็นพนักงานใหม่ ผมจะได้เอามาอ่านได้ง่ายหน่อย"

หากได้เอกสารมา ก็ตรวจดูเอกสารด้วยเลยว่า มีการอนุมัติให้ใช้มั้ย มันเป็นฉบับใหม่หรือฉบับเก่า จดๆ ไว้ด้วย เพราะ ณ ตอนนั้นอาจยังบอกไม่ได้ว่ามันเป็นฉบับปัจจุบันมั้ย ไว้ไปเทียบเคียงกับผู้ดูแลเรื่องเอกสารอีกที

"ที่พี่อธิบาย ตอนขั้นตอนแรก พี่มีบันทึกลงในแบบฟอร์มอะไรบ้างครับ" เราก็ตามไปดูแบบฟอร์มต่างๆ ค่อยๆ ดูข้อมูลในแบบฟอร์มนั้นอย่างละเอียด ทำความเข้าใจว่ามันเอาไปใช้อะไร ใครจำเป็นต้องใช้บ้าง มีบางช่องไม่ลงข้อมูลบ้างหรือไม่ ทำไมไม่ลง ลืมหรืออย่างไร อย่างลืมจด จด แล้วก็จดรายละเอียดของบันทึกไว้ด้วยล่ะ

เราก็ตรวจอย่างนี้ไปทีละขั้น อย่างข้ามขั้น เพราะจะทำให้เราเข้าใจในขั้นตอนการทำงาน แล้วเราก็ลองเช็คกลับไปที่ ระเบียบปฏิบัติ ว่ามีเขียนอ้างถึงไว้บ้างหรือไม่

"บันทึกต่างๆ ของพี่ เก็บยังไงครับ เก็บกี่ปี ครบกำหนดแล้วทำลายยังไง" แล้วก็ลองสุ่มตรวจบันทึกเก่าๆ ดู ว่ามันยังอยู่มั้ย ไอ้ที่หมดอายุเป็นยังงัย

ไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ หากเรามั่นใจว่าเราทำได้ บวกกับการที่เราฝึกฝนบ่อยๆ ก็จะทำให้เราชำนาญขึ้น แล้วพบกันใหม่ในภาค 3

หลักการตรวจสอบระบบคุณภาพภายใน ISO 9001:2008 ภาค 1

มีคำถามมากมายจากการตรวจสอบระบบคุณภาพภายใน (Internal Quality Audit) ว่าจะตรวจอย่างไรให้ครบถ้วน ได้ถูกต้อง ถึงจะตรงตามข้อกำหนดของ ISO 9001:2008 อีกทั้งที่เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับมือใหม่เลยก็คือ จะตรวจอะไร จะถามอะไรดี ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหน อืม งง! แม้มือเก่าก็ยังไม่วายที่จะพบกับปัญหาในเรื่องของการตรวจ อย่าว่าแต่ผู้ตรวจเลย (Auditor) ผู้ถูกตรวจ (Auditee) เองก็ยังเคลือบเคลืองสงสัยในใจแต่ไม่กล้าถามผู้ตรวจ เพราะกลัวว่าจะได้รับใบ CAR (Corrective Action Request) ว่าได้ที่ตรวจๆ อยู่นั่น มันจับผิดหรือเปล่า จำเป็นต้องตรวจ ต้องทำขนาดนั้นเชียวหรือ วันนี้เรามาพูดคุยกันในเรื่องนี้กันดีกว่า

เริ่มจากการเรียนรู้ในระบบการทำงานขององค์กรเราๆ กันก่อน ลองนึงถึงกระบวนการทำงานอะไรสักอย่างมาหนึ่งกระบวนการ ถ้านึกไม่ออก ผมนึกให้เลยล่ะกัน ผมนึกถึงกระบวนการผลิต เมื่อนึกถึงกระบวนการผลิต สิ่งที่จำเป็นสำหรับกระบวนการนี้มีอะไรบ้างครับ ตอบได้มั้ยเอ่ย แน่นอนคงเคยได้ยินคำว่า 4M กันมาบ้าง หมายความว่า จะผลิตอะไรก็ตามในกระบวนการทำงานต้องประกอบไปด้วย พนักงานผู้ปฏิบัติงาน (Man) เครื่องมือ เครื่องจักรในการทำงาน (Machine) วิธีการที่จะผลิตสินค้า (Method) และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต (Material) สิ่งเหล่านี้คือ องค์ประกอบของเกือบทุกกระบวนการทำงาน ไม่ว่าจะกระบวนการฝึกอบรม กระบวนการจัดซื้อ กระบวนการขาย

ทำไมเราต้องเรียนรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ เพราะสิ่งเหล่านี้คือองค์ประกอบที่เราจะต้องไปตรวจในระบบการทำ ISO 9001:2008 ว่าแล้วเราก็เริ่มไปตรวจกันดีกว่า

อันดับแรก ผมลงไปที่กระบวนการผลิต ผมไปเจอพนักงานคนหนึ่งที่มาคอยตอบคำถามผม ผมจึงเริ่มตรวจจาก พนักงาน (Man) ก่อน ก่อนจะถามอะไรอย่าลืมทำความคุ้นเคยกับพนักงานท่านนี้ก่อนนะ เขาจะได้ไม่เกร็ง ไม่งั้นคำตอบที่ได้มีแต่ ไม่ทราบ ไม่รู้ ไม่เคยสอน ไม่เคยได้ยินแน่ครับพี่น้อง การตรวจพนักงานปฏิบัติการก็ดูในเรื่องของการฝึกอบรม คำถามอาจจะเป็น

"ไม่ทราบว่าทำงานในตำแหน่งนี้มานานรึยังครับ"
"ถ้าเพิ่งเข้ามา มีการฝึกอบรมอะไรให้กับเราบ้าง ใครเป็นคนอบรม มีสอบด้วยรึป่าว ผ่านมั้ย ยากมั้ย" ถามๆ ไปเถอะ เหมือนกับว่าชวนคุยงัย คงไม่ต้องบอกนะว่าไอ้ที่ถามเนี่ยะมันอยู่ในข้อกำหนดข้อไหน

หากเราจะถามเรื่องหน้าที่รับผิดชอบ และคุณสมบัติประจำตำแหน่ง ก็ถามได้

"ไม่ทราบว่าพี่จบอะไรมาครับ ถึงได้มาทำอยู่ตำแหน่งนี้ได้"
"งานยากมั้ย เคยทำที่อื่นมาบ้างรึป่าว" ถามหาประสบการณ์ เพื่อเอาไปเช็คอีกทีว่าตรงกับที่ระบุไว้หรือเปล่า
"มีหน้าที่ประจำต้องทำอะไรบ้าง ต้องลงบันทึกอะไรบ้าง ตอนเลิกงานต้องรายงานใคร อย่างไรมั้ย เล่าให้ฟังหน่อย"

อ่านมาถึงตรงนี้พอจะมีแนวทางในการไปตรวจคนบ้างหรือยังครับ คงพอจะเห็นภาพ ซึ่งวันนี้ผมค้างเอาไว้เท่านี้ก่อน ไว้วันหลังจะมาต่อภาค 2 และภาคต่อๆ ไป

Trainsition to ISO 9001:2008 by Walk Rally



หลักการและเหตุผล
ระบบบริหารคุณภาพ (ISO 9001:2008) เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงให้เห็นถึงศึกยภาพขององค์กรที่มีมาตรฐานการทำงานที่ชัดเจน การดำเนินงานที่เทียบเท่าและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล บุคลากรซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับองค์การ จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ ความเข้าใจกับระบบการบริหารต่างๆ ที่องค์กรดำเนินการ เพื่อให้มีความสามารถในการทำงาน และการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดฝึกอบรมหลักสูตร "Trainsition to ISO 9001:2008 by Walk Rally" เป็นการอบรมในรูปของการทำกิจกรรมกลุ่ม เป็นรูปแบบของการเรียนรู้คู่กับความสนุกสนาน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้บุคลากรได้มีความเข้าใจในการนำระบบบริหารคุณภาพไปประยุกต์เพื่อให้มีระบบการทำงานที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งยังส่งเสริมหลักในการทำงานร่วมกันเป็นทีม ได้เรียนรู้ตนเองและเพื่อนร่วมงาน อันจะมีส่วนทำให้มีการพัฒนาระบบบริหารคุณภาพภายในองค์กรดียิ่งๆขึ้นไป


ISO 9001:2008 Walk Rally คืออะไร
ISO 9001:2008 Walk Rally คือ กิจกรรมที่กำหนดให้มีการเดินอย่างเป็นกลุ่มในแต่ละทีม โดยเดินไปตามแผนที่ที่กำหนดให้เดิน และเป็นไปตามกติกา เพื่อค้นหาปริศนารวมถึงหมากกลที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ และนำพาเข้าสู่เส้นชัยในเวลาที่เหมาะสม
กิจกรรม Walk Rally นี้ เป็นกิจกรรมที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทบทวนและทำความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดของ ISO 9001:2000 เป็น ISO 9001:2008 และเข้าใจระบบเอกสารในองค์กร การตรวจติดตามผลการดำเนินงาน และเพื่อให้บุคลากรได้มีจิตสำนึกในการทำงานร่วมกัน ส่งเสริมให้มีการใช้ความคิดและแสดงความคิดเห็นร่วมกันอย่างเต็มที่ บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงในการทำงานและที่สำคัญคือ ผู้ปฏิบัติงานสามารถเรียนรู้การทำงานเป็นทีมได้ด้วยตนเอง
"Trainsiton to ISO 9001:2008 by Walk Rally" จึงเป็นหลักสูตรการฝึกอบรมในรูปแบบกิจกรรมที่อาศัยตัวเราเป็นครูสอนตัวของเราเอง ให้เกิดการเรียนรู้และการตีความในข้อกำหนดและการประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติจริงได้เป็นอย่างดี

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร Trainsition to ISO 9001:2008 by Walk Rally

1. เพื่อเป็นการทบทวนและทำความเข้าใจในข้อกำหนด ISO 9001:2008
2. เพื่อให้เข้าใจถึงลักษณะการทำงานโดยมุ่งเน้นที่กระบวนการ (Process Approach)
3. เพื่อให้เป็นคนยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และเป็นคนมีเหตุมีผล
4. เพื่อให้เป็นคนช่างสังเกต และละเอียดรอบคอบ
5. เพื่อให้เป็นคนที่ซื่อสัตย์และรับผิดชอบ
6. เพื่อให้เป็นคนที่มีการวางแผนในการทำงาน
7. เพื่อให้เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์
8. เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
9. เพื่อเสริมสร้างทัศนคติที่ดีและแรงจูงใจในการทำงาน

ขั้นตอนในการจัดกิจกรรม

แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน
1. ภาควิชาการ การทบทวนความรู้เกี่ยวกับระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2008
2. ภาคกิจกรรม การดำเนินกิจกรรม Walk Rally
3. ภาคประเมินผล การสรุปประเมินผลในภาคปฏิบัติ

ประโยชน์ที่ได้รับจากกิจกรรม Walk Rally

ประโยชน์ส่วนตัว
1. ทำให้มีความเข้าใจในข้อกำหนดของ ISO 9001:2008 และผลของการเปลียนแปลง
2. ทำให้เข้าใจการทำงานที่มุ่งเน้นกระบวนการ โครงสร้างเอกสาร การตรวจติดตามผลการ ดำเนินงาน และการนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจริง
3. ทำให้เป็นคนละเอียดรอบคอบ และช่างสังเกต
4. ทำให้เป็นคนมีเหตุมีผลและยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น
5. ทำให้เป็นคนตรงต่อเวลา และรู้จักรักษาเวลา
6. ทำให้เป็นคนมองเห็นข้อบกพร่องของตนเอง เพื่อนำไปปรับปรุง
7. ทำให้เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์
8. ทำให้รู้จักการทำงานร่วมกัน
9. ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง

ประโยชน์ต่อการทำงาน
1. ทำให้มีความเข้าใจในข้อกำหนดของ ISO 9001:2008 และผลของการเปลี่ยนแปลง

2. ทำให้รู้จักการทำงานเป็นทีม โดยเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบร่วมกัน ร่วมกันใช้ความคิด ฟังเหตุผลและความคิดของกันและกัน รวมทั้งรู้จักแก้ไขปัญหาร่วมกัน
3. ทำให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพราะ Walk Rally เรื่องกฎ กติกา มีความสำคัญมาก
4. รู้จักมีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและมีการวางแผนการทำงานก่อนการลงมือปฏิบัติจริง
5. ทำให้มีความละเอียดรอบคอบในการทำงาน
6. ได้สร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความรักสามัคคีระหว่างเพื่อนร่วมงานทุกระดับชั้นและทุกวัย ซึ่ง จะก่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
7. ทำให้เป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน
8. ทำให้รู้จักคุณค่าแห่งการทักทายผู้อื่น
9. ทำให้มีแนวความคิดในการทำงานและการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องและเป็นคนดีมีคุณธรรม

สนใจสอบถามรายเลียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณทวีศักดิ์, คุณณัฐฐา, คุณพรชัย หมายเลขโทรศัพท์ 02-7458325-6

ให้คำปรึกษาฟรี!!!!